วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ชนิดของอาหาร

ชนิดของอาหาร

อาหารไทยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ อาหารคาว  อาหารหวาน  นอกจากนี้ยังมีอาหารว่างซึ่งเป็นอาหารคาวก็ได้ หรืออาหารหวานก็ได้ไว้รับประทานระหว่างแต่ละมื้อ
อาหารคาว
   อาหารคาวประกอบด้วยทุกรส ทั้งเค็ม หวาน เปรี้ยว และมีรสเผ็ดอีกรสหนึ่งตามปกติอาหารคาวที่รับประทานตามบ้านทั่วๆไปจะประกอบด้วย
1.แกง
แกงของไทยมีหลายชนิดได้แก่ แกงเผ็ด แกงคั่ว แกงส้ม แกงจืด ต้มยำ ต้มโคลง ต้มส้ม
ซึ่งจะใส่เนื้อสัตว์ต่างๆตามลักษณะของแกง
2.ผัด
แยกได้เป็น 2 อย่าง คือผัดจืด และผดเผ็ด ผัดจะใช้ผักและเนื้อทุกชนิด
ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือซีอิ๊วขาว ส่วนผัดเผ็ดใช้เนื้อทุกชนิดกับผัดกับพริกสด หรือพริกแห้งซึ่งอาจจะนำเครื่องแกงมาผัดแห้ง เช่น พะแนงไก่ ปลาดุกผัดเผ็ด เป็นต้น
3.ยำ
เทียบได้กับสลัดผักของอาหารฝรั่งของยำจะเหมาะกับลิ้นของคนไทย คือ มีรสจัด ยำแบบไทยแยกได้เป็น2รส คื รสหวานและรสเปรี้ยว ยำที่มีรสหวานประกอบด้วย กะทิ มะพร้าวคั่ว เช่น ยำถั่วพู ยำทวาย ยำหัวปลี ส่วนยำที่มีรสเปรี้ยว ได้แก่ ยำใหญ่และที่ใช้เนื้อประกอบผัก
4.ทอด เผา หรือย่าง สำหรับเนื้อสัตว์จะปรุงรสและดับกลิ่นคาวด้วยรากผักชี กระเทียม พริกไทยและเกลือ เช่น กุ้งทอด หมูทอด ปลาทอด หรือจะเผา เช่น กุ้งเผา ไก่ย่าง เป็นต้น
5.เครื่องจิ้ม เป็นอาหารที่คนไทยชอบรับประทานมาก ได้แก่ น้ำพริกกะปิ น้ำพริกมะม่วง กะปิคั่ว แสร้งว่า ปลาร้าหลนและน้ำปลาหวาน เป็นต้น เครื่องจิ้มนี้จะรับประทานอาหารกับผัก ทั้งผักสดและผักสุก ผักสด ได้แก่ มะเขือ  แตงกวา ผักบุ้ง ขมิ้นขาว ผักสุก ได้แก่ หน่อไม้ลวก มะเขือยาวเผาหรือชุบไข่ทอด ชะอมทอด ถ้าต้องการให้อร่อยมากขึ้นก็จะรับประทานกับปลาทอด กุ้งเผาหรือกุ้งต้ม  
6.เครื่องเคียง
อาหารไทยจะมีเครื่องเคียงหรือเครื่องแนมประกอบเพื่อชูรสชาติยิ่งขึ้น เช่น แกงเผ็ด จะมีของเค็มเครื่องเคียง ได้แก่ ไข่เค็ม ปลาเค็ม หรือเนือเค็ม อาหารบางชนิดจะรับประทานกับผักดอง เช่นแตงกวาดอง ขิงดอง กระเทียมดอง เป็นต้น ผู้ปรุง หรือแม่ครัวจะต้องเลือกจัดให้เข้ากันตามลักษณะของอาหาร
อาหารหวาน
   อาหารหวานของไทยมีทั้งชนิดน้ำและแห้ง ส่วนมากปรุงด้วยกะทิ น้ำตาลและแป้งเป็นหลัก เช่น กล้วยบวชชี ขนมเปียกปูน ขนมใส่ไส้ (สอดไส้) ขนมเหนียว เป็นต้น ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ชาวยุโรปได้ถ่ายทอดการทำขนมด้วยไข่ให้แก่คนไทยหลายอย่าง เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยาและขนมหม้อแกง
   เมืองไทยมีผลไม้มากมายหลายชนิด จึงต้องหาวิธีเก็บรักษาผลไม้เหล่านั้นไว้รับประทานนานๆคนไทยมีวิธีถนอมอาหารไว้หลายวิธี ได้แก่ วิธีดอง เช่น มะม่วงดอง วิธีกวน เช่น กล้วยกวน เช่น วิธีตาก เช่น กล้วยตาก วิธีเชื่อม เช่น สาเกเชื่อม วิธีแช่อิ่ม  เช่น ฟักแช่อิ่ม เป็นต้น
      ขนมหวานชนิดแห้งรุบประทานได้ทุกเวลา ส่วนมากจะเป็นขนมอบเพื่อเก็บใส่ขวดโหลไว้ได้นาน เช่น ขนมกลีบลำดวน ขนมหน้านวล เป็นต้น
      ขนมไทยในโบราณจะแสดงฝีมือในการสลัก แกะ หรือปั้นเป็นรูปต่างๆ และจะอบให้หอมด้วยกลิ่นกุหลาบ มะลิ กระดังงา หรือควันเทียน 
อาหารว่าง
    อาหารว่างระหว่างอาหารแต่ละมื้อ ยังมีอาหารที่รับประทานแต่เล่น เรียกว่า อาหารว่าง อาจเป็นอาหารควาที่รับประทานกับน้ำชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่นๆในตอนบ่าย ได้แก่ ขนมหวานใส่ไส้ ขนมเบื้อง กล้วยทอด เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น